วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ครีมบัวหิมะที่เราควรรู้


สินค้าอย่างหนึ่งที่คนไทยนิยมซื้อเวลาไปเที่ยวเมืองจีน คือครีมบัวหิมะ ซึ่งโฆษณาว่าใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แมลงกัดต่อย ผื่นคัน แผลฝีหนอง แผลอักเสบ สิว ปวดกล้ามเนื้อ และสารพัดอาการทางผิวหนัง เสิร์ชดูในอินเตอร์เนต จะพบว่าครีมบัวหิมะแบบนี้มีขายเยอะมาก หน้าตาไม่เหมือนกันอีกต่างหาก มีทั้ง website ที่เป็นของห้างขายยาจีน ขายโดยบอกตรงๆว่าเป็นยา ไม่ใช่เครื่องสำอาง และ website ที่โฆษณาว่า มันคือครีมจากสารพัดสมุนไพรอย่าง ไข่มุก โสมป่า ว่านหางจระเข้ การบูร วาสลีน ชะมดเช็ด (สารตัวนี้ ในทางเครื่องสำอางใช้เป็นสารแต่งกลิ่นน้ำหอม) นิ่วในถุงน้ำดีวัว (จินตนาการเอานิ่วในถุงน้ำดีวัวมาทาแผล อืมมมม น่าใช้เนอะ เหอ เหอ :P) ซึ่งอ่านแล้วน่าตกใจ และไม่น่าจะถูกต้องด้วยเพราะว่าไม่เหมือนกับประกอบซึ่งเขียนไว้บนฉลากเลย แล้วส่วนประกอบที่ระบุบนฉลากของมันคืออะไรเอ่ย...
ดูที่กล่องสีน้ำเงินๆจะพบว่าด้านหน้ามีคำว่า “OTC” ซึ่งคำนี้ย่อมาจาก over the counter drug นั่นก็คือ “ยาที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านยา โดนไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์” นอกจากนั้นส่วนประกอบด้านหลังระบุว่ามีตัวยาหลายๆตัวผสมอยู่ ได้แก่ camphor (การบูร), เมนทอล, เมทิลซาลิไซเลท (น้ำมันระกำซึ่งใช้เป็นยาทาถูแก้ปวดเมื่อย), diphenhydramine (สารในกลุ่ม anti-histamine ซึ่งมีฤทธิ์แก้แพ้ แก้คัน), chlorhexidine gluconate (สารฆ่าเชื้อ มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย), glycyrrhetinic acid (สารต้านอาการอักเสบ) เนื้อของครีมเป็นครีมข้นแข็ง มีกลิ่นการบูรและเมนทอล เค้าแนะนำให้เก็บในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส จึงมักพบว่าคนไทยเก็บครีมนี้ในตู้เย็น เวลาทำกับข้าวโดนของร้อน โดนกะทะ เวลามาทาจึงมีทั้งความเย็นจากอุณหภูมิของเนื้อครีมที่เพิ่งออกจากตู้เย็น และจากการบูรและเมนทอล จึงทำให้รู้สึกเย็นสบายดี และเวลาทาผื่นคัน หรือผื่นแผลก็หายได้แน่นอนค่ะ เพราะมีทั้งยาแก้คัน ยาฆ่าเชื้อ ส่วนผสมซึ่งเป็นตัวยาสำคัญออกฤทธิ์เหล่านี้ ก็เป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในยาทาแผลแผนปัจจุบัน แถมราคายาแผนปัจจุบันก็ถูกกว่าเจ้าครีมบัวหิมะกระปุกละพัน ครึ่งพันด้วย
จะว่าไปบ้านผู้เขียนเองก็มีเจ้าครีมบัวหิมะนี่อยู่ในตู้เย็นนะคะ มีญาติซื้อมาฝากด้วยความหวังดีเช่นกัน ดังนั้นถ้าบ้านไหนจะมีก็ไม่ผิด ไม่แปลก แต่ผู้เขียนขอแค่ว่า ให้คุณเข้าใจให้ถูกว่ามันคือยา ไม่ใช่เครื่องสำอาง และหากคุณไปเที่ยวเมืองจีนในอนาคต แล้วอยากจะซื้อครีมบัวหิมะฝากคนอื่นๆ อย่าลืมคิดถึงบทความนี้ซักนิดนึงก่อนซื้อ การจะซื้อใช้ซื้อครีมบัวหิมะฝากคนที่คุณรัก เพื่อแสดงความคิดถึงประหนึ่งเป็น ข้าวหลามหนองมน หรือว่าขนมหม้อแกงเพชรบุรี มันมีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน เพราะเราไม่ทราบว่าผู้รับคนไหนจะแพ้ยานี้หรือไม่ ส่วนที่ขายกันดาษดื่นในเมืองไทย ก็พบว่ามีทั้งของจริง ของปลอม ของเลียนแบบ และเท่าที่ทราบทางภาครัฐเค้าเคยเจอเจ้าครีมบัวหิมะที่มีส่วนผสมของสารห้ามใช้ ไม่ว่าจะปรอท หรือไฮโดรควิโนนด้วย ระวังไว้สักนิด ก่อนที่ของที่ระลึกจากคุณ จะกลายเป็นของที่ระทึกสำหรับผู้รับนะคะ
ปล.ขอขอบคุณ ภก.พิศาลสิทธิ์ ธนวุฒิ ผู้จุดประกายให้เกิดบทความนี้ค่ะ Smile

การลดน้ำหนักสำหรับคนช่างกิน

   ความรู้ดีๆ จากคุณอมรากุล อินโอชานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการการลดน้ำหนัก เกี่ยวกับประเภทของคนที่มีนิสัยช่างกิน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่กินได้โดยไม่รู้สึกหิว เห็นของกินอะไรน่ากินก็พร้อมจะหยิบเข้าปากได้ทันที ทำบ่อยจนเกิดเป็นนิสัยเคยชินจนหลายคนมีปัญหาเรื่องน้ำหนักส่วนเกินตามมา

ประเภทของคนนิสัยช่างกิน 


1. กลุ่มที่มีนิสัยเชื่อมโยงความสุขกับการกิน
 เวลาทำอะไรเพลินๆ ต้องมี“ของกินของชอบ” วางข้างตัวไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องสร้างบรรยากาศรอบตัวให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ คนลักษณะนี้จะมีนิสัยการกินทีละเล็กทีละน้อย แต่ไปเรื่อยๆ ต่อเนื่องไม่กินเป็นมื้อ จนบางครั้งแคลอรี่รวมแล้วมากกว่าอาหารมื้อใหญ่ซะอีก เล่นเอาเวลาลดน้ำหนักต้องควบคุมกันแทบจะตลอด สาวๆ หลายคนที่มีนิสัย "ชอบกิน" กลายเป็นว่ามีปัญหาเรื่องการลดน้ำหนักไม่ลงตามมาค่ะ 
2. กลุ่มที่ชอบกินเพื่อดับเครียด กลุ่มนี้ไม่ได้มีความสุขกับการกินเหมือนกลุ่มแรก แต่เมื่อใดที่เกิดความเครียด เบื่อ เซ็ง ก็จะหยุดหาของกิน เช่น เดินเข้าร้าน เปิดตู้เย็น และมักกินครั้งละมากๆ เพื่อดับความโหวงเหวง เบื่อหน่ายในจิตใน โดยกินจนรู้สึกแน่นท้องอึดอัดจึงจะหยุด เมื่อเสร็จแล้วก็ไม่รู้สึกสบายตัวหรือมีความสุข ส่วนใหญ่จะหงุดหงิดลึกๆ ที่ไม่สามารถห้ามตัวเองได้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม นิสัยชอบกินเหล่านี้แก้ไขได้ค่ะ แต่จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อค่อยๆ ฝึกตัวเองกลับมาโดยไม่รู้สึกอึดอัด ทุรนทุราย ไม่สบายใจ และให้ผลดีกับการลดน้ำหนักในที่สุดค่ะ 

วิธีการฝึกตัวเองให้ลดความช่างกิน

  • ทำตัวเองให้ยุ่ง..ยุ่ง..และยุ่งชนิดไม่มีเวลากินเข้าไว้
อย่านั่งอยู่กับที่ เลือกทำงานที่ต้องออกไปพบปะคนอื่นๆ สำหรับคนที่ต้องทำงานนั่งโต๊ะ การพูดโทรศัพท์เพื่อติดต่องานนานๆ จะทำให้คุณไม่สามารถหยิบของกินเข้าปากได้ เคยสังเกตไหมคะว่าวันไหนที่คุณยุ่งๆ วิ่งวุ่นตลอด เผลอแป๊บเดียว เวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยอาจไม่มีเวลากินอะไรเลยซะด้วยซ้ำ การสร้างกิจกรรมเยอะๆ ยังช่วยให้สาวๆ ติดนิสัยแอคทิฟ ช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางค่ะ
  • อย่าให้มือว่างจนหยิบของกิน
การทำตัวเองให้ทำงานยุ่งตลอดเวลาจนไม่มีเวลากิน เป็นเทคนิคหนึ่งในการลดความช่างกินและลดน้ำหนักของคุณได้ดีค่ะ
สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงาน หรือเกษียณอายุ หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ เวลาอยู่บ้านให้เลือกทำงานที่ทำให้คุณเลอะเทอะ จนทำให้ไม่สะดวกเวลาต้องไปกินอะไร เช่น ขุดดิน ถูบ้าน รีดผ้า ซักผ้า เรียกว่าถ้าอยากกินอะไรต้องไปล้างมือเสียก่อน หรือถ้าเป็นงานอดิเรก ให้เลือกงานที่ต้องใช้มือและสมาธิตลอดเวลา เช่น การวาดรูป การประดิษฐ์สิ่งของ หรือที่ต้องหยิบจับอะไรตลอดโดยระวังไม่ให้เข้าปาก หรือเกิดความเพลิดเพลินจนทำให้คุณลืมกินไปเลย ยิ่งหากคุณมีวิธีการออกกำลังกายในแบบที่ชอบ ยิ่งเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ
  • อย่ารังเกียจอากาศร้อน
อากาศร้อนจะทำให้คุณไม่อยากกินอะไรนอกจากน้ำเย็นๆ ทำให้กินอย่างอื่นได้น้อยลง ตรงกันข้าม หากอยู่แต่ในห้องแอร์จะทำให้คุณรู้สึกสบาย และเจริญอาหารมากกว่า
  • ใช้วิธีอมน้ำแข็งเมื่อรู้สึกอยากกิน
การอมน้ำแข็งเย็นๆ จะทำให้ลิ้นรับรสเปลี่ยนไป และช่วยทำให้ความน่ากินของอาหารลดลง ดังนั้น อย่าลืมวางกระติกน้ำแข็งแบบที่ไม่ใส่น้ำหวานไว้ใกล้ตัวนะคะ
  • ทำงานที่ต้องใช้สมาธิ
จะทำให้คุณมุ่งมั่นอยู่กับงานจนลืมหิวและลิมกินไปเลย การฝึกสมาธิยังช่วยให้คุณมีสติในการทำโน่นนี่ และสามารถจัดตารางเวลาในการลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วยค่ะ
  • เข้านอนแต่หัวค่ำ
การพักผ่อนด้วยการนอนหลับเป็นการลดนิสัยช่างกินของคุณได้อีกทางหนึ่งได้อย่างดี เพราะทำให้ชีวิตคุณเป็นระบบมากขึ้นและรักษาสมดุลน้ำหนักได้ดีขึ้น
แล้วตื่นแต่เช้า เป็นวิธีที่ทำให้หยุดกินได้ชะงัดนัก เพราะจะทำให้คุณได้กินอาหารเช้า ซึ่งมีส่วนในการกระตุ้นการเผาผลาญอาหาร ลดความอยากกินจุบจิบก่อนจะไปถึงมื้อเที่ยง สาวๆ พึงจำไว้เสมอว่าในช่วงลดน้ำหนักไม่ควรงดมื้อเช้านะคะ
  • ไม่เชื่อมโยงการให้รางวัลตัวเองกับของกิน
หลายคนมักเคยชินกับการให้รางวัลตัวเองด้วยการกิน เช่น เลี้ยงฉลองหลังสองเสร็จ หรือไม่ก็หาอะไรกินอร่อยๆ หลังทำงานเสร็จยามดึกดื่น ผลคือ สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตของเราไปจนโต เพราะเราจะรู้สึกว่ามีความสุขกับการกับให้รางวัลตัวเองด้วยการกิน จนกลายเป็นลดน้ำหนักไม่ลงนั่นเอง
  • ใส่เสื้อผ้าพอดีตัว
การใส่ชุดหลวมๆ สบายๆ อาจทำให้เรากินมากขึ้น และตัวขยายขึ้นโดยเราไม่รู้ตัว อาจลองหาชุดที่ใส่แล้วไม่หลวมนัก เพื่อให้เราสามารถรู้สึกได้เมื่อเริ่มอึดอัดและหยุดกินได้ทันที
  • ดื่มน้ำมากๆ ระหว่างกินอาหาร
จะช่วยทำให้คุณอิ่มเร็วขึ้น และลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น สำหรับสาวๆ ที่ชอบกินจุบจิบ อย่าลืมซื้อบ๊วยเค็มใส่ขวดโหลไว้อมแทนเวลารู้สึก “อยากกิน” ความเค็มจะทำให้คุณหิวน้ำและดื่มน้ำมากแทนอาหารค่ะ สาวๆ บางคนอาจเลือกหาของว่างประเภทสแน็กแบบธัญพืชที่มีเส้นใยอาหาร หรือ ไฟเบอร์ (Fiber) สูงก็จะทำให้เราอิ่มอยู่ท้องและลดความอยากกินจุบจิบลงได้เช่นกันค่ะ
ทั้งหมดเป็น “ตัวช่วย” สำหรับคนช่างกินโดยเฉพาะกับผู้หญิงหลายคน ซึ่งต้องยอมรับว่ามีวินัยน้อยกว่าผู้ชาย และชอบกินจุบจิบมากกว่า การหา “ตัวช่วย” มาสนับสนุนก็คงช่วยได้ไม่น้อยค่ะ

การเลือกรองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง

ทำไมผู้หญิงต้องการรองเท้าวิ่งที่แตกต่างจากผู้ชาย? 
หญิงสร้างขึ้นแตกต่างจากมนุษย์ ผู้หญิงสั้นน้ำหนักเบามีเปอร์เซ็นต์ลดลงของมวลกล้ามเนื้อและเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ชายเฉลี่ย น้ำหนักกระดูกหญิงยังมีน้ำหนักเบาด้วยข้อต่อและเอ็นรอบถูกนุ่มและยืดหยุ่นมากขึ้น
หญิงมีสะโพกกว้าง (ที่เกี่ยวข้องกับการคลอดบุตร) และผลสุดท้ายคือขาของผู้หญิงมักจะเอียงลงที่มุมสูงจากสะโพกเพื่อ ankles, คมชัดจากคนที่มักจะมีขาที่ splayed มากขึ้นด้านข้าง และเท้าชี้ชัดใน 90 ° มุม ลาดเอียงของขาในทางกลับทำให้เท้าเพื่อตีดินจากภายนอกสร้างทิศทางแรงตรงข้ามที่ดึงเข้ามาเดิน ผลจะดำเนินการ pronation ขาเข้าในทุกฝีเท้า
เท้าผู้หญิงยังมีรูปทรงแตกต่างกัน นอกเหนือจากการมีขนาดเล็กกว่าคนพวกเขามีส้นแคบลงเมื่อเทียบกับเท้าของพวกเขา นี้มักจะเกิดกับใบในส้นรองเท้าเมื่อใส่รองเท้าวิ่งผู้ชายที่สามารถนำไปสู่เสถียรภาพและ chafing ผู้หญิงบางคนซื้อรองเท้าแคบเพื่อแก้ปัญหานี้ แต่อาจทำให้เกิดการรัดและปวดเท้าหน้า
นอกเหนือจากความแตกต่างเพศโครงสร้างยังมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างฮอร์โมนชายและหญิง ความเข้มข้นของฮอร์โมนเพศหญิงประถม, estrogen, ภายในร่างกายของผู้หญิงสามารถมีผลกระทบต่อการเดินรอบ จากการศึกษา, สตรีเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมเท้าเป็นระดับ estrogen ที่ผันผวนในระหว่างรอบเดือนของพวกเขา Oestrogen เป็นที่รู้จักกันจะคลายเนื้อเยื่ออ่อนและหนึ่งในผลกระทบนี้จะลดความสูงซุ้มผู้หญิง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยการออกแบบรองเท้าวิ่งกลางเท้าเฉพาะได้รับการพัฒนาโดยบางคนทำงานโรงงานผลิตรองเท้า
เหล่านี้แตกต่างทางกายวิภาคเปลี่ยนความเครียดเท้าหญิงเทียบกับคู่ชายในระหว่างการเคลื่อนไหวจึงทำให้พวกเขาอ่อนแอต่อขึ้นบ่อยและต่างบาดเจ็บ แต่รองเท้าคุณภาพดีสามารถใช้ความแตกต่างระหว่างอาชีพที่ประสบความสำเร็จและสนุกสนานไม่ว่าจะเป็นทั้งทางสังคมหรือการแข่งขันและสตริงบาดเจ็บเจ็บปวดและผิดหวัง
สำหรับผู้หญิงเพื่อหาคู่ที่ดีของรองเท้าวิ่งเธอต้องพิจารณาปัจจัยที่สาม
  • ขนาดและ Fit : การหาขนาดที่เหมาะสมสำหรับรองเท้าที่สามารถเป็นงานยาก คุณควรคำนึงถึงความยาวความกว้างและขนาดของเท้าของคุณ เพื่อหารองเท้าขวาทดสอบหลายยี่ห้อก่อนตัดสินใจซื้อ Jog รอบเก็บและทราบว่ามีห้องเพียงพอในกล่องและส้นเท้าของคุณไม่ลื่น ถ้าเป็นไปได้ทดสอบรองเท้าโดยใช้ขึ้นเขาหรือรอบมุมและหากรองเท้ารู้สึกแม้แต่ bit เลอะเทอะน้อยที่สุดก็อาจจะกว้างเกินไปสำหรับคุณ
  • สนับสนุน : มีระดับต่างๆของการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ รองเท้าบางใช้สำหรับการเดินในขณะที่คนอื่นทำเพื่อทำงานหรือวิ่ง ทุกประเภทนี้รองเท้าให้การสนับสนุนในระดับต่างๆ ดังนั้นคุณต้องมีภาพที่ชัดเจนของประเภทของกิจกรรมที่คุณจะใช้รองเท้าสำหรับ
  • กระแทก : รองเท้า Cushioned มี midsoles softest และให้อัพดูดซึมที่ดีที่สุด หญิงทั่วไปของรองเท้าวิ่งควรมี cushioning น้อยตั้งแต่ผู้หญิงมีน้ำหนักเบา
  • น้ำหนัก : ขึ้นพิจารณารองเท้าน้ำหนักของคุณ จำไว้ว่าจะต้องมีน้ำหนักเบาและง่ายต่อการใช้รอบด้วย
  • ควบคุม Motion : ผู้หญิงที่ดีที่สุดของรองเท้าวิ่งควรมีความสามารถในการเคลื่อนไหวต่อต้านและต้องมีในตัวควบคุมเพื่อ จำกัด pronation
  • คุณภาพ : รองเท้าวิ่งของคุณควรจะทำจากวัสดุคุณภาพดี ควรแข็งแรงและสามารถทนประเภทของกิจกรรมใดๆ ควรทำจากวัสดุที่ดีที่สุดที่จะให้เท้าของคุณการป้องกันพอและสะดวกสบาย
คู่ที่สมบูรณ์แบบของรองเท้าวิ่งผู้หญิงจะช่วยให้หญิงใดที่จะไปไกล ที่สมบูรณ์แบบความมั่นใจให้รองเท้าความเร็วและความคล่องตัว พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนักวิ่งและอุปกรณ์เหมาะสำหรับนักกีฬาทุกระดับ

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

เริ่มต้นทำความรู้จัก



สวัสดีค่ะทุกคนที่แวะเวียนมาเจอกัน
ชื่อหนุงหนิงค่ะ ตอนนี้มีบล็อกเป็นของตัวเองแล้วว แต่จะมีใครเข้ามาอ่านมั้ยย - -*
นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะตอนนี้หนุงหนิงแค่อยากเขียนนน เอ๊ะ! ต้องพิมพ์สิ 55//
บล็อกนี้หนุงหนิงตั้งใจทำเป็นที่เก็บข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเรื่องราวดีๆ
ที่หนุงหนิงไปเจอมาและอยากแบ่งให้เพื่อนๆได้อ่าน